ต้องบอกว่าเป็นพระเอกลูกรักคนใหม่ของช่อง 7 เลยก็ว่าได้ สำหรับหนุ่ม เข้ม หัสวีร์ ที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาเปิดใจว่า การได้มาทำงานในวงการบันเทิงนั้น มันห่างไกลมาก ถามว่าตอนที่ถูกทาบทามเข้าวงการบันเทิงคิดเยอะไหมเหรอครับ ผมแค่มีความคิดว่าอยากจะทำงานที่สามารถหาเงินมาดูแลครอบครัวได้

ช่วงที่ผมเข้ามาแฟชั่นโชว์ยังบูม ๆ อยู่ ผมมีเดินแบบทุกอาทิตย์ รับเงิน 3,000 – 4,000 บาท เป็นงานที่ง่ายสำหรับผม เดิน ๆ จบ ไม่ต้องพูด จากนั้นเริ่มได้รับโอกาสมาเรื่อย ๆ เล่นเอ็มวีบ้าง โฆษณาบ้าง ซึ่งผมไม่เคยคิดว่าจะได้มาเป็นพระเอกละคร


เมื่อก่อนผมฟันหลอ มีแก้ม อ้วน มันค่อนข้างที่จะไกลตัวผมจริง ๆ สำเนียงการพูดอีก พูดแล้วโดนล้อ ยิ่งทำให้ผมไม่อยากคุยกับใครเลย พอพูดไม่ชัด มีตำหนิ งานในวงการก็ยิ่งไกลตัว ซึ่งแพลนของผมตอนนี้ คือ เก็บเงินส่วนนึงไปทำธุรกิจให้ครอบครัวได้ดูแล อยากทำคาเฟ่ ร้านอาหารให้พี่สาวที่ จ.บึงกาฬ บ้านเกิดของผม และจะสร้างบ้านสักหลังให้ทุกคนได้มาอยู่ด้วยกัน

ผมออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ 14-15 ปี ช่วงนั่นติดเพื่อนด้วย ไม่มีที่ปรึกษา พอพ่อกับแม่แยกทางกัน ก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร มีพี่สาว พี่สาวก็มีครอบครัว จึงไม่อยากไปรบกวนเขา พ่อก็หาย แม่ก็หาย ด้วยความคิดของผมเองด้วย ซึ่งจริง ๆ เขาไม่ได้หาย เขาพยายามติดต่อผมตลอด แต่ผมเลือกที่จะไม่ติดต่อกับใครเลย


ผมเคยเกือบไม่รอด ไม่ได้กินข้าว 3 วัน ไม่ได้คุยกับครอบครัว ตอนนั้นมีศักดิ์ศรีว่าจะไม่ขอใคร คือ ตั้งแต่วันที่ออกมาทำงานก็ไม่ได้ติดต่อใครเลย สิ่งแรกที่นึกถึงคือใบหน้าของแม่ ทำให้ผมกลับมาคิดได้และกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกครั้ง

ปัจจุบันหนุ่ม เข้ม เหมือนได้ชีวิตใหม่ เพราะนอกจากเป็นพระเอกดังแล้ว เขายังถูกยกให้เป็นบุตรชายสุดที่รักหัวแก้วหัวแหวนของแม่หนิงอีกด้วย เพราะแม่หนิงนั้นทั้งรักทั้งเอ็นดูหนุ่ม เข้ม เอามาก ๆ ชนิดที่ว่าช่วยดูแลและจัดการทุกอย่าง เหมือนแม่อีกคนเลยทีเดียว


ทำให้วันนี้จากเด็กหนุ่มที่พกเงินแค่วันละ 25 บาท สามารถรวย 100 ล้านได้ภายในเวลาแค่ 6 ปี อีกทั้งยังสามารถซื้อรถหรูเกือบ 10 ล้านไว้ใช้งาน ซึ่งต้องบอกเลยว่ารถหรูคันนี้เหมือนรถคู่ของเขากับนางเอกคู่จิ้นอย่างสาว มุกดา นรินทร์รักษ์ เพราะทั้งคู่ซื้อรถยี่ห้อเดียวกันในเวลาใกล้กันมาก ๆ งานนี้แฟน ๆ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะพัฒนาจนกลายเป็นคนรู้ใจได้หรือไม่

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม hussaweee